~ E3 2013 Wrap Up สรุปรายละเอียดและความประทับใจโดยจีคอน ~
-----------------------------------------------
จบงาน E3 ไปสดๆร้อนๆ ปีนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในปีที่มีความร้อนแรงมาก เพราะไม่ใช่แค่เกมภาคใหม่ที่
ทยอยนำมาเปิดตัว แต่การเผยรายละเอียดสำคัญของเครื่องยุคถัดไปที่ชนกันอย่างจังอย่าง Xbox One
และ Playstation 4 นั้น สามารถเรียกความสนใจจากเกมเมอร์ที่กำลังรอคอยและเตรียมตัดสินใจที่จะ
ซื้อเครื่องเกมตัวแรกของยุคหน้าได้อย่างมากเลยทีเดียว
สำหรับไฮไลท์ของงานคงหนีไม่พ้นงานแถลงการณ์ของ Microsoft และ Sony ที่จัดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน
โดย Microsoft เลือกที่จะเปิดตัวเครื่อง Xbox One สองสัปดาห์ก่อนหน้านี้แล้ว และหลังจากที่ได้รับผล
ตอบรับที่ไม่ค่อยดีเพราะด้วยสาเหตุการเน้นไปที่บริการเสริม ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเล่นเกมมากนัก
ทำให้นักเล่นเกมต่างก็มีปฏิกิริยาในแง่ลบ และรอดูว่าในงานแถลงการณ์ครั้งนี้ ทาง Microsoft
จะเผยอะไรที่จะดึงความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่ Xbox One ยังถูกมองว่าเป็นเครื่องเล่นเกมกลับมาได้อีก
อย่างไรก็ตาม Microsoft เลือกที่จะไม่อธิบายรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของตัวเครื่องแต่อย่างใด
แต่กลับใช้วิธีปล่อยข่าวตามออกมาทีหลังแทน โดยสรุปรายละเอียดในส่วนที่เป็นประเด็นร้อนแรงในตอนนี้ก็คือ
- Xbox One จะวางจำหน่ายช่วงแรกแค่ 21 ประเทศ และไม่สามารถเปิดใช้งานในประเทศที่ยังไม่วางจำหน่ายได้
- บังคับออนไลน์เพื่อแอคติเวตการใช้งานเกม และบังคับเกมมือสอง
- กำหนดรุปแบบการแชร์เกม และเล่นได้พร้อมกันไม่เกินสองคน
- ล้อคโซน
หลังจากข่าวที่ตามออกมาไม่นาน กระแสตอบรับในแง่ลบบนอินเตอร์เน็ตกลับทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก
เพราะนี่เป็นการยืนยันข่าวลือก่อนหน้านี้ทั้งหมด เกี่ยวกับระบบข้อจำกัดที่ทาง MS ใส่ลงมาในเครื่อง Xbox One
ทั้งที่จริงแล้วโมเดลการควบคุมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการแต่อย่างใด หากเราลองเปรียบเทียบกับสิ่งที่ Apple
หรือ Steam ทำ เราจะพบว่าระบบเหล่านั้นต่างก็มีข้อจำกัดคล้ายๆกันอยู่แล้ว
แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่า ข้อจำกัดที่บริษัทอื่นทำ มันใช้กับเฉพาะสื่อดิจิตอลล้วนๆ แต่ MS กลับเลือกที่จะทำ
นโยบายแบบเดียวกันกับสื่อแผ่น ซึ่งมีรูปแบบการถือครองและการขายที่แตกต่างกัน และการตัดสินใจออก
นโยบายมาแบบตูมเดียวแบบนี้ แทบจะเป็นการตีแสกหน้าลูกค้าของตัวเองอย่างจัง เพราะมันไม่ใช่เป็นแค่การ
ปรับนโยบายการเป็นเจ้าของใหม่ แต่ยังเป็นการปรับเปลี่ยนวิถีการใช้งานของผู้บริโภคครั้งใหญ่ จนเกิดคำถามว่า
MS กำลังแก้ปัญหาที่ไม่มีตัวตนอยู่จริงรึเปล่า และเพราะเหตุผลถึงได้กล้าออกนโยบายที่ต่อต้านพฤติกรรมผู้บริโภคมากขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเกมที่ประกาศนั้น PS4 ยังมี Exclusive สำคัญๆน้อยกว่า Xbox One ณ จุดนี้ แม้ว่า Sony
จะมีสตูดิโอผลิตเกมของตัวเองอยู่เยอะมาก แต่ในงานแถลงการณ์ กลับมีเพียงแค่ความคืบหน้าของเกม Killzone และ
Infamous Second Son ออกมาเท่านั้น คาดว่าเราคงจะต้องรองาน E3 ปีหน้าอีกทีถึงจะได้เห็นอะไรมากกว่านี้
แต่เท่านี้ก็แทบเรียกได้ว่า Sony สามารถเรียกกระแสคนเล่นเกมให้มาอยู่ฝั่งตนได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
และดูจากลักษณะการออกนโยบายและกำหนดราคา แทบจะเรียกได้ว่า รอตีแสกหน้า MS อย่างเดียวเลย
ผลก็เริ่มมีออกมาให้เห็นมาขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่กระแสจากสื่อและโพลจากนักเล่นเกมที่เทใจไปให้ฝั่ง PS4
แม้แต่ยอดจองเครืองในเว็บใหญ่ๆอย่าง Amazon หรือเว็บขายเกมอื่นๆในฝั่งตะวันตก ต่างก็โชว์
ให้เห็นว่าเครือ่งและเกมจาก PS4 ขึ้นท้อปชาร์ตแซงหน้า Xbox One เกือบหมด
อีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ถึงแม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Sony โดยตรง แต่การเลือกไปประกาศในงาน Sony
เองก็ทำให้คนให้ความสนใจมาก คงจะหนีไม่พ้นการประกาศเปลี่ยนชื่อจาก Versus เป็น Final Fantasy XV
พร้อมการย้ายไปลงเครื่องยุคถัดไปโดยตรง รวมถึงความคืบหน้าจาก Kingdom Hearts ที่บอกว่า
กำลังพัฒนาภาคสามอยู่นะ เล่นเอาแฟนๆร้องห่มร้องไห้กันเลยทีเดียว ปีนี้ผู้พัฒนาฝั่งญี่ปุ่นเริ่มมีบทบาทมากขึ้น
หลังจากเริ่มตั้งหลักกับการพัฒนาเกมบนเครื่องยุค HD ได้ Metal Gear Solid 5 ก็เป็นอีกหนึ่งเกม
ที่โชว์ศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ในงานนี้ และต้องถือเป็นครั้งแรก ที่ซีรี่ส์เริ่มปรับทิศทางแนวเกม
และหันไปให้ความสนใจกับการเป็นเกมแบบโอเพ่นเวิร์ลมากยิ่งขึ้น ซึ่งเอาจริงๆก็ไม่ใช่แค่เกมนี้เกมเดียว
แต่เกมยุคหน้าส่วนใหญ่ก็เลือกหันเหไปทิศทางนี้กันเกือบหมดเหมือนกัน
ส่วนเกมที่น่าสนใจจากผู้พัฒนาฝั่งตะวันตก ก็หนีไม่พ้น EA และ Ubisoft, EA เองอาจจะไม่ได้มีอะไรหวือหวามาก
นอกเหนือไปจากการเห็นเดโมเพิ่มเติมของเกมกราฟฟิคระดับเทพอย่าง Battelfield 4 และการประกาศเปิดตัว
Mirror Edge 2 ในขณะที่ Ubisoft เอง หลังจากที่โชว์ความเหนือชั้นในการพัฒนาเกมยุคถัดไปนำหน้า
ผู้สร้างรายอื่นไปแล้วอย่าง Watch Dogs, มาปีนี้ทาง Ubisoft ได้โชว์ความสามารถนั้นอีกครั้ง
กับการเปิดตัวเกม Tom Clancy's The Division ที่เอาอัดกราฟฟิคยุคหน้าลงไปแบบเต็มพิกัด
จริงๆจะพูดว่าไม่มีมาริโอ้เลยก็ไม่ได้ เพราะ Super Mario 3D ภาคใหม่ก็มีประกาศออกมา
แต่ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าหลังจากภาคบรอสที่เพ่ิงออกไปได้ไม่นาน นี่คือสิ่งที่แฟนนินต้องการอยากจะเล่นอีก?
สื่อบางรายให้ความเห็นว่านินเทนโด้กำลังเลือกแนวทางการกระตุ้นตลาดแบบเดิม แบบเดียวกับที่สำเร็จจากสมัย
3DS ด้วยการออก Mario เวอร์ชั่น side scroll ออกมา รวมถึง Mario Kart ภาคใหม่อย่าง Mario Kart 8
แต่พูดก็พูดเถอะ เป็นแฟนนิน ให้เล่นแต่เกมแบบนี้ทั้งปีทั้งชาติ มันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ
ที่น่ากลัวก็คือมีข่าวออกมาจากปากชิเกรุ มิยาโมโต้ ถึงปัญหาที่ทางทีมงานต้องเจอกับการปรับเปลี่ยนรูปแบบ
การพัฒนามาเป็นเกมแบบ HD ซึ่งจริงๆการเจอปัญหานี้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกคือมันเคยเกิดขึ้นกับค่าย
3rd party เกือบทั้งหมดในญี่ปุ่นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว และต้องใช้เวลากันเป็นปี กว่าค่ายญี่ปุ่นจะดิ้นรนกันขึ้นมาได้
แต่กับปัญหาเดียวกัน นินเทนโด้ไม่น่าจะปล่อยให้มันเกิดขึ้น ถ้ามันมีตัวอย่างผ่านมาให้เห็นแล้วถึง 1 ยุคเต็มๆ
นั่นเป็นการบ่งบอกถึงความไม่พร้อมในการสนับสนุนเครื่องเกมตัวนี้ และทำให้เกิดคำถามว่า แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับ
WiiU ถ้าในเมื่อ 3rd party เริ่มที่จะทำเกมให้น้อยลง แล้วค่าย 1st party เองกลับประสบปัญหาการถ่ายเปลี่ยนยุคแบบนี้
บางทีเราอาจจะได้เห็นอะไรชัดเจนขึ้นในงาน Tokyo Game Show ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนกันยายนปีนี้ก็ได้
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนถ่ายยุคเครื่องเกม มักจะเป็นเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดเสมอ
แต่อะไรหลายๆอย่างจะเริ่มชัดเจนขึ้น หลังจากที่เครื่องเริ่มวางขายไปได้ซักระยะ ณ ตอนนี้ ส่วนตัวมองว่า
Sony มีภาษีมากที่สุด รองลงมาเป็น Xbox One และท้ายสุด Wii U
STAFF JAM
Xbox One: ซวยแล้วล่ะ ทำตรงข้ามกับความต้องการผู้บริโภค แต่มองอีกแง่หนึ่งสมัย Steam ออกใหม่ ๆ
ก็เจอวิบากกรรมแบบนี้ Xbox เดอะวันของเราก็ถือได้ว่าล้ำนำสมัยไปอีกขั้น จากเซอร์วิสต่าง ๆ
และการพยายามจะเป็นตู้กดน้ำประจำบ้าน ถึงแม้แววร่วงมาแต่ไกล แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ